วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

สารสกัดจากถั่วขาว

สารสกัดจากถั่วขาว (Phaseolamin)

ส่วนประกอบของอาหารเสริมที่ ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมมากในขณะนี้คือกลุ่มของการใช้เอนไซม์ ซึ่งสกัดการย่อยแป้งครับ ในกลุ่มนี้ก็มีสารสกัดจากถั่วขาวด้วยเช่นกัน

สารสกัด จากถั่วขาวหรือ ฟาซีโอลามิน ( Phaseolamin ) เป็นสารที่บริษัทอาหารเสริมคาดหวังว่าจะเป็นสารที่ยับยั้ง แอลฟา-อไมเลสครับ ซึ่งสร้างมาจากตับอ่อนและทำหน้าที่เปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลกลูโคส ก่อนที่จะดูดซึม ดังนั้นการยับยั้งเอนไซม์นี้จึงเป็นความคาด หวังว่าน่าจะทำให้ร่างกายดูดซึมแป้งน้อยลงครับ

เป็นความจริงหรือที่การยับยั้งเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยแป้งจะทำให้ เราดูดซึมแป้งและน้ำตาลน้อยลงและทำให้เราผอมลง ?

เคยมี การทดลองในหนูครับ เปรียบเทียบกับระหว่าง หนูที่ไม่ให้สารที่ยับยั้งเอนไซม์ ,หนูที่ให้สารที่ยับยั้ง เอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยแป้งได้มากถึง 50% เปรียบเทียบกับ หนูที่ให้สารที่ยับยั้งเอนไซม์ที่สามารถย่อยแป้งได้ถึง 100%

โดย ให้รับประทานอาหารเหมือนๆกันเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ ไม่พบความแตกต่างในเรื่องของน้ำหนักของหนูแต่ละกลุ่ม แต่ว่าหนูทั้ง3 กลุ่มมีการขับถ่ายสังกะสีและทองแดงไม่เท่ากัน โดยหนูที่ได้รับสารที่ยับยั้งเอนไซม์มากก็จะสูญเสียสังกะสีและทอง แดงไปกับอุจจาระไปมากกว่าครับ

แล้วก็ มีอีกการทดลองซึ่งทำในสุนัข 8 ตัว แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้รับประทานสารที่ยับยั้งเอนไซม์ อะไมเลส 1.5 กรัม อีกกลุ่มไม่ให้ครับ เป็นระยะเวลานาน 9สัปดาห์ โดยให้รับประทานอาหารเหมือนๆกัน

แม้ว่าจะมีแป้งหลงเหลือที่ไม่ ได้ถูกย่อยเหลือมาถึงลำไส้เล็กส่วนปลาย และพบว่าแป้งดูดได้น้อย กว่าในกลุ่มที่ให้สารที่ยับยั้งเอนไซม์อะไมเลส พบว่าน้ำหนักของสุนัขไม่แตกต่างกันเลยครับ แต่ช่วยให้ควบคุมระดับน้ำตาลได้เท่านั้น

อีก การทดลองครับ เป็นการทดลองโดยใช้สารสกัดจากถั่วขาว ไม่พบว่าสารสกัดจากถั่วขาวช่วยในเรื่องของการป้องกันการย่อยและการดูดซึมของแป้งใน มนุษย์

การทดลองนี้ทำโดยการให้รับประทานแป้ง 100 กรัม(400 กิโลแคลอรี่) แล้ววัดแคลอรี่ที่หลงเหลือมากับอุจจาระครับ

ถ้า สารสกัดจากถั่วขาวสามารถยับยั้งการย่อยและการดูดซึมของแป้งได้จริง ต้องมีส่วนที่เป็นแป้งติดมากับอุจจาระถูกต้องไหมครับ

แต่ ผลการทดลองนี้สรุปว่า สารสกัดจากถั่วขาว ไม่ช่วยในเรื่องของการป้องกันการย่อย
และการดูดซึมของแป้งครับ เพราะว่าแทบจะไม่เหลือแคลอรี่จากแป้งปนมากับ
อุจจาระเลย

มีการทดลองที่นำคนอ้วน 50 คน เปรียบเทียบระหว่างสารสกัดจากถั่วขาว 1500มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง (สังเกตนะครับว่าใช้ปริมาณที่สูงมาก) กับไม่ได้รับ (ได้เป็นยาหลอก) เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์

พบว่าในกลุ่มที่ได้รับ สารสกัดจากถั่วขาวลดน้ำหนักได้ประมาณ 1.7 กิโลกรัม และกลุ่มที่ ไม่ได้รับลดน้ำหนักได้ประมาณ 0.7 กิโลกรัม ร่วมกับมีระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดที่ลดลง

แต่ว่าน่าเสียดายครับ การทดลองนี้กลับไม่มีความสำคัญอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเนื่อง จากกลุ่มตัวอย่างน้อยเกินไป ซึ่งการทดลองนี้ควรมีกลุ่มตัวอย่างสัก 150 คนครับการทดลองนี้จึงมีความสำคัญอย่างมีนัยสำคัญ

การทดลองนี้ครับ เป็นการทดลองนำอาสาสมัครมา 60 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งได้รับสารสกัดจากถั่วขาว 445 มิลลิกรัมก่อนอาหารมื้อที่มีแป้งมาก อีกกลุ่มหนึ่งได้รับยา หลอก (ไม่ได้รับ) แล้วให้รับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ควบคุมแคลอรี่ให้ได้ประมาณ 2000 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ผลปรากฎว่าในกลุ่มที่ได้รับสารสกัดจากถั่วขาวสามารถลดน้ำหนัก ได้เฉลี่ย 2.9 กิโลกรัม ซึ่งลดน้ำหนักได้มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับไม่ได้รับ 0.3 กิโลกรัม

ให้ระวังครับ การทดลอง 2 ครั้งหลังนี้ใช้อาหารเสริมยี่ห้อ "Phase 2" ซึ่งมีส่วนประกอบ อื่นๆนอกเหนือจากถั่วขาว เช่น แคลเซียมฟอสเฟต 20% เซลลูโลส 10% vitamin B3 7% โครเมียมพิโคลิเนต 0.5 มิลลิกรัม ครับ ดังนั้นผลลัพธ์อาจไม่ใช่จากสารสกัดจากถั่วขาวเพียงอย่างเดียว

และ จุดที่ให้สังเกตอีกข้อครับ คือเรื่องสารสกัดจากถั่วขาว จากการทดลองจะใช้ปริมาณสารสกัดจากถั่วขาวไม่ต่ำกว่า 445 มิลลิกรัมครับ ซึ่งแปลว่าถ้าใช้สารสกัดจากถั่วขาวในปริมาณที่น้อยกว่านี้อาจ ไม่ได้ผล และทำให้คุณเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์

คุณไม่มีทางรู้หรอก ครับว่าอาหารเสริมที่คุณรับประทานอยู่ใช้สารสกัดจากถั่วขาวมากเท่า ไหร่ เพราะบริษัทอาหารเสริมส่วนใหญ่ไม่เคยเขียนปริมาณของส่วนประกอบไว้บนฉลาก คุณอาจได้รับในปริมาณที่ไม่เพียงพอสำหรับการลดน้ำหนักก็ได้ครับ

มีการทดลองหนึ่งทำในสิงหาคม 2007 นำอาสาสมัคร 25 คนที่อ้วน มาแบ่งเป็น 2 กลุ่มกลุ่มหนึ่ง ให้สารสกัดจากถั่วขาว 1000 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง อีกกลุ่มหนึ่งไม่ให้ แล้วให้ควบคุมอาหารและออกกำลังกายพอๆกัน เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ ก็พบว่าน้ำหนักลดลงไม่แตกต่างกัน นั่นคือสารสกัดจากถั่วขาวอาจไม่มีประโยชน์ในการที่จะช่วยควบคุม น้ำหนัก

เอาล่ะครับ ถึงตอนนี้ผมสรุปว่าสารสกัดจากถั่วขาวยังมีข้อมูลที่ยังขัดแย้งกันอยู่ มีทั้งข้อมูลที่สนับสนุนและคัดค้านครับ และส่วนใหญ่คัดค้านครับ

คุณว่ามีอะไรแปลกๆไหมครับ คุณรับประทานอาหารประเภทแป้งเข้าไป แล้วก็รับประทานอาหาร เสริมเพื่อยับยั้งมัน

ถ้าคุณต้องเสียเงินเพื่อซื้ออาหารเสริมสำหรับ การยับยั้งการย่อยและดูดซึมแป้งแล้วล่ะก็ ทำไมคุณจึงไม่ลด ปริมาณอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลที่คุณรับประทานลงล่ะครับ หรือ เปลี่ยนข้าวเป็นข้าวซ้อมมือ ใยอาหารจะช่วยชะลอการย่อยและการดูดซึมน้ำตาลให้ช้าลงโดยธรรมชาติอยู่แล้ว น่าจะเป็นหนทางเลือกที่ดีกว่า ประหยัดกว่า และส่งผลต่อสุขภาพได้มากกว่าด้วยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น